วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

จับรวม กลอนวันพ่อ วันพ่อ วันพ่อแห่งชาติ




รวบรวม กลอนวันพ่อ วันพ่อ วันพ่อแห่งชาติ



วันพ่อแห่งชาติ ประวัติวันพ่อแห่งชาติ จัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2523 โดย คุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา เป็นผู้ริเริ่มจัดงานวันพ่อแห่งชาติขึ้น ด้วยความจงรักภักดี และมีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงของประชาชนชาวไทย ในฐานะ "พ่อแห่งชาติ" และ "พ่อของแผ่นดิน" ในประเทศไทย ได้กำหนดให้ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติ 


        ซึ่งนอกจากพระองค์จะเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทะนุบำรุงพระราชโอรสธิดาด้วยความรัก และทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ และทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทแล้ว พระองค์ยังทรงพระมหากรุณาทะนุบำรุงจัดทุกข์ผดุงสุขพสกนิกรถ้วนหน้า พระองค์ทรงเป็น “พ่อแห่งชาติ” ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนักในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการทะนุบำรุงชาติบ้านเมืองให้ วัฒนาถาวรสืบไป





วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)




วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ ที่คณะผู้ริเริ่มกำหนดคือ วันพ่อแห่งชาติ



  • เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  • เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม

  • เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ

  • เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน






    ในการนี้คณะกรรมการได้จัดกิจกรรมประกาศเกียรติคุณ พ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น ในทุกๆปี โดยมีการกำหนดคุณสมบัติของพ่อดีเด่นดังนี้


    คุณสมบัติของพ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น วันพ่อแห่งชาติ




    นอกจากนั้นทางคณะกรรมการ ยังได้แนะนำ กิจกรรมสำหรับลูกในวันพ่อ คือ


    • ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน

    • จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือบำเพ็ญกุศลเพื่อส่วนรวม

    • ทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศล และระลึกถึงพระคุณของพ่อ ซึ่งยังดำเนินการสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน





    ในวัน ที่ 5 ธันวาคมมหาราช นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย เดช และเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว ยังถือว่าว่าวันนี้ เป็น “วันชาติของไทย” อีกด้วย



            โดยทั่วไป “วันชาติ” มักจะหมายถึง วันเฉลิมฉลองที่ประเทศนั้นๆได้รับอิสรภาพ เป็นเอกราช หรือเป็นวันสถาปนาประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ วันเกิดประมุขของรัฐ หรืออาจจะเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ แต่มักจะถือเป็นวันหยุดประจำของชาติ ซึ่ง “วันชาติ” ของแต่ละประเทศจะเป็นวันใด ก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดของประเทศนั้นๆ เช่น ประเทศโมร็อกโก ตรงกับวันที่ ๒ มีนาคม สหรัฐอเมริกา ตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคม ฝรั่งเศสตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม อินโดนีเซียตรงกับวันที่ 17 สิงหาคม บราซิลตรงกับวันที่ 7 กันยายน และเคนย่าตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม เป็นต้น



            “วันชาติ” ของประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีเพียงวันเดียว แต่ก็มีบางประเทศเช่นกันที่มี “วันชาติ” มากกว่าหนึ่งวัน ทั้งนี้เพราะประเทศนั้นๆ อาจจะนับวันที่ได้รับเอกราชหรือวันที่ปลดแอกจากการเป็นอาณานิคม และวันที่มีการสถาปนาการปกครองขึ้นใหม่ ซึ่งอาจจะมิใช่วันเดียวกัน แต่เป็นวันสำคัญเสมือนวันชาติเท่าๆกัน เช่น ประเทศปากีสถาน จะมีวันชาติตรงกับวันที่ 23 มีนาคม ที่เขาเรียกว่า “Republic Day” และวันที่ 14 สิงหาคม เป็น “Independence Day” ส่วนฮังการี ก็มีถึง 3 วันคือ วันที่ 15 มีนาคม 20 สิงหาคม และ 23 ตุลาคม สำหรับจีน นอกจากจะมีวันชาติตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม แล้ว ที่ฮ่องกง อันเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน ที่มีขึ้นหลังจากอังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีนก็มีการเฉลิมฉลองวันที่ตรงกับวัน สถาปนาการปกครองพิเศษนี้ขึ้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม อีกด้วย



            สำหรับ ประเทศไทย เราเคยได้มีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายน เป็น “วันชาติ”ของไทย ด้วยถือว่าวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยได้มี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “วันชาติ” ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 โดย พ.อ.พหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น และได้มีการเฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนายน ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2482 ในสมัยจอมพลป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี




            วันที่ 24 มิถุนายน เป็น “วันชาติ” ของไทยอยู่นานถึง 21 ปี ครั้น วันที่ 21 พฤษภาคม 2503 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย โดยให้เหตุผลว่า กลอนวันพ่อ



            ด้วยคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่ได้กำหนดให้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทยในวันที่ 24 มิถุนายน นั้น ได้ปรากฏในภายหลังว่า มีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ในด้านประชาชนและหนังสือพิมพ์ก็ได้เสนอแนะให้พิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้ง หลายคราว คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมีพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน



            คณะกรรมการนี้ได้พิจารณาแล้ว เสนอความเห็นว่า ประเทศต่างๆได้เลือกถือวันใดวันหนึ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับชนในชาติ ต่างๆกัน โดยถือเอาวันประกาศเอกราช วันอิสรภาพ วันตั้งถิ่นฐาน วันสาธารณรัฐ วันสถาปนาพระราชวงศ์บ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ โดยทั่วไปนั้น ได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นต้น แม้ประเทศไทยเราเองก็ได้ถือเอาวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยมา แล้ว เพิ่งจะมากำหนดเอาวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่งในระยะหลังนี้เอง



            คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นหลักการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน จึงสมควรจะถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย ต่อไป โดยยกเลิกวันชาติ ในวันที่ 24 มิถุนายนเสีย




            ดังนั้น นับแต่ปี พ.ศ. 2503 ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันชาติ” ของไทย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา




            ตามปกติ การจัดงาน “วันชาติ” ของประเทศต่างๆก็จะมีกิจกรรมและรูปแบบแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ก็มักจะมีการกล่าวสุนทรพจน์ การจัดขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง การจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างเอิกเกริก รวมไปถึงการแสดงมหรสพต่างๆ เป็นต้น แต่ในประเทศไทย เนื่องจากวันชาติ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งมีกิจกรรมเฉลิมฉลองอยู่แล้ว กอปรกับประเทศไทยยังไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครมาก่อน และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็คุ้นชินกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เห็น กันอยู่ปัจจุบัน



            ดังนั้น “วันชาติ” ของเราจึงดูเหมือนไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าใดนัก เพราะชาวไทยทุกหมู่เหล่าล้วนตัองการจัดกิจกรรมเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พ่อหลวงของแผ่นดิน” มากกว่าประเด็นอื่น อย่างไรก็ดี หากเราจะระลึกว่าวันนี้ ก็เป็น “วันชาติ”ของไทยด้วย แล้วจัดกิจกรรมต่างๆที่จะแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อ “ประเทศชาติ” ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และความเสียสละมาอย่างยาวนานเช่นไร ก็อาจจะทำให้ วันนี้ มีความหมายครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น



    ดอกพุทธรักษา

    ดอกพุทธรักษา สัญลักษณ์วันพ่อแห่งชาติ


            ดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ คือ ดอกพุทธรักษา มีสีเหลืองเด่น เป็นสีของวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีความหมายคือ ความสงบสุขร่วมเย็น การปกป้องคุ้มครอง แสดงถึงความรักและเคารพบูชาพ่อ ที่คอยปกป้องครอบครัว โดยมีความเชื่อว่า หากบ้านใดปลูกต้นนนพุทธรักษาไว้ จะช่วยปกป้องคุ้มครองอันตรายแก่บ้าน และที่อยู่อาศัยได้




    กลอนวันพ่อ



    บทอาศิรวาท เฉลิมพระชนมพรรษา มหาราชา "ภูมิพล ฯ"


    "เฉลิมพระชนม์ เฉลิมชัย ชโยฤกษ์

    บายศรีเบิก ฟ้าสีทอง ผ่องเวหน

    พระบุญญา พระบารมี พระฯภูมิพล

    เกริกสกล ภูมิแผ่นดิน ภิญโญไทย



    ธ ทรงมี ทศพิธ ราชธรรม

    โครงการล้ำ เชิดชูชาติ ศาสน์ไสว

    อิสริยยศ คิงออฟคิง เพริศพริ้งไกล

    งามวิไล ราชกิจ พิศอัศจรรย์



    อัญเชิญชัย พระไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    เทพนิมิต ราชประสงค์ ทรงเสกสรรค์

    จตุรพิธ พรประเสริฐ เลิศอนันต์

    นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"




    กลอนวันพ่อ






    กลอนวันพ่อ





    บทอาศิรวาท เฉลิมพระชนมพรรษา มหาราชา "ภูมิพล ฯ"


    "เฉลิมพระชนม์ เฉลิมชัย ชโยฤกษ์

    บายศรีเบิก ฟ้าสีทอง ผ่องเวหน

    พระบุญญา พระบารมี พระฯภูมิพล

    เกริกสกล ภูมิแผ่นดิน ภิญโญไทย

    ธ ทรงมี ทศพิธ ราชธรรม

    โครงการล้ำ เชิดชูชาติ ศาสน์ไสว

    อิสริยยศ คิงออฟคิง เพริศพริ้งไกล

    งามวิไล ราชกิจ พิศอัศจรรย์

    อัญเชิญชัย พระไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    เทพนิมิต ราชประสงค์ ทรงเสกสรรค์

    จตุรพิธ พรประเสริฐ เลิศอนันต์

    นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"


    วารี ไตรเพิ่ม ผู้ประพันธ์กลอนวันพ่อ

    1ธ.ค.53


    ----------------------------------------------------------------------------------------




    กลอนวันพ่อ


    "สรวมชีพ น้อมเกศา ข้าพระบาท

    อาศิรวาท จอมบดินทร์ ปิ่นเกศี

    เฉลิมพระชนม์ พระฯภูมิพล นฤบดี

    พระบารมี ยิ่งบุญญา เฟื่องฟ้าไกล

    กอปรอาเกียรณ์ ราชกิจ ผลิตโครงการ

    พรหมสร้างสาน ปราชญ์คู่หล้า ฟ้าสดใส

    ทศพิธ ราชธรรม ธำรงไทย

    เลื่องลือไป ทั่วหล้า น่าอัศจรรย์

    ขอเทพไท ไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    นฤมิต พรพราวพร่าง สร้างสุขสันต์

    ธ ประสงค์ ลุประสงค์ มงคลพลัน

    ภักดีมั่น ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"



    วารี ไตรเพิ่ม (ประพันธ์กลอนวันพ่อ)

    1 ธ.ค. 53


    ----------------------------------------------------------------------------------------




    กลอนวันพ่อ





    "ลุที่ห้า ธันวา มหาฤกษ์

    บายศรีเบิก แผ่นฟ้า เวหาหน

    เฉลิมพระชนม์ พรรษา มหามงคล

    ร่วมกมล ถวายพระพร บวรชัย

    ธ ทรงเป็น ยิ่งกว่า ราชาบดี

    ทรงเป็นศรี แห่งแผ่นดิน ภิญโญสมัย

    ธ ทรงงาน โครงการ สร้างสานไทย

    น้ำพระทัย พระเมตตา ล้ำบารมี

    ธ ทรงเป็น พลัง แห่งแผ่นดิน

    เลิศศาสตร์ศิลป์ พัฒนาไทย ไพศาลศรี

    ดังตะวัน จันทรา หล้าปฐพี

    เพชรมณี เฟื่องสยาม คามตำนาน

    อัญเชิญชัย ศรีไตรรัตน์ ประภัสสร์ผล

    ทวยเทพดล ราชวงศ์ เกษมศานต์

    จตุรพิธ พรพร่าง นานัปการ

    โลกขับขาน ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"


    วารี ไตรเพิ่ม (ประพันธ์กลอนวันพ่อ)

    1 ธ.ค. 53





     *** ขอขอบคุณบทกลอนวันพ่อจาก คุณวารี ไตรเพิ่ม (บทกลอนที่นำมาเสนอได้รับอนุญาตจากผู้แต่งแล้ว) หากผู้ใดต้องการนำกลอนวันพ่อเหล่านี้ไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ กรุณาติดต่อที่ feedback@sanook.com





    ----------------------------------------------------------------------------------------



    5 ธันวา ศุภฤกษ์เบิกฟ้างาม



    สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันพ่อ



    ยอกรน้อมบังคมก้มกราบบาท

    มหาราชจอมบดินทร์ปิ่นสยาม

    "5 ธันวา" ศุภฤกษ์เบิกฟ้างาม

    ทุกเขตคาม แซ่ซ้องถวายชัย





    เฉลิมพระชนมพรรษามหาสวัสดิ์

    ขอเทพไท้ที่ป้องรัฐทุกสมัย

    น้อมปกปักพระพ่อหลวงของปวงไทย

    เปี่ยมพระพลานามัยไปชั่วกาล





    ด้วยพระมหาบารมีที่ล้นเกล้า

    ข้าพระพุทธเจ้าฯ ขอรองลาดพระบาทผ่าน

    ด้วยยึดดี...มิปล่อยใจใฝ่ทางมาร

    สมัครสมานและรู้อยู่พอเพียง





    ทีฆายุโก โหตุ มหาราช

    ไทยทั้งชาติ เปล่งประสานสุรเสียง

    “ทรงพระเจริญ” แม้หลากมากสำเนียง

    ต่างล้วนเคียงเพ่งจิตกราบถวายพระพร





    กษัตริย์ผู้ทรงพระราชกรณียกิจ

    มีลิขิตเพียงตำนาน...ในกาลก่อน

    ชาติที่กล่าวดังนั้น...คงสั่นคลอน

    ด้วยพระเกียรติก้องกำจร...องค์ภูมิพล





    พระมหากรุณาล้นฟ้ากว้าง

    เกินร้อยกรองสรรค์สร้างคำงามล้น

    "หนึ่งธุลี" ใต้ร่มฉัตรแห่งภูวดล

    น้อมกมลร้อยกรองถวาย “ทรงพระเจริญ”





    ----------------------------------------------------------------------------------------







    จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึงพ่อ



    สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันพ่อ



    จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึงพ่อ

    เรียง “รัก” ทอร้อยถัก “ตัวอักษร”

    “ลูกรักพ่อ” แม้บอกฝากจากกาพย์กลอน

    “รัก” แน่นอน จากลูกมั่นลูกสัญญา





    อาจไม่ใช่คนที่ เป็น “ที่หนึ่ง”

    ไม่น่าทึ่ง-เก่งฉกาจ-มาดหรูหรา

    ไม่สวยเด่นดังเช่น “ดาว” พราวนภา

    แต่เชื่อว่าเป็น “คนดี” ที่ภูมิใจ





    ทุกถ้อย “พ่อ” เตือนย้ำยามยังเด็ก

    เจ้าตัวเล็กอาจเหมือนรั้นไม่หวั่นไหว

    แต่พ่อจ๋า...ที่ตรึงติดสนิทฤทัย

    จักอื่นใด “คำพ่อสอน” คือพรพรหม





    อุ่นอื่นหนอ จะอุ่นละมุนนัก

    เท่าอุ่นจาก “ไอรัก” อันเหมาะสม

    ชายอื่นหนอ จะ “รักลูก” ยามทุกข์ตรม

    ทั้งชีวิต “หวาน” – “ขม” พ่อห่วงใย





    ลูกของพ่อจะเดินทางอย่างเชื่อมั่น

    สู่ “ปลายฝัน” อนาคตอันสดใส

    แม้อุปสรรค์จะขวากขวางบนทางไกล

    “ลูกสาวพ่อ” จะก้าวไปไม่แคลนคลอน





    จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึงพ่อ

    เรียง “รัก” ทอร้อยถัก “ตัวอักษร”

    พนมมือก้มน้อมราบกราบบิดร

    ด้วยบทกลอน ว่า “รักมั่นกตัญญู”









    ----------------------------------------------------------------------------------------









    กราบพ่อ



    สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันพ่อ





    พนมมือกราบแนบ…แทบเท้าพ่อ

    ผู้สร้าง-ก่อกำเนิด เกิดสังขาร

    จากว่างเปล่า มีชีวิต จิตวิญญาณ

    มีเลือดเนื้อ ดุจปั้น รังสรรค์มา





    นึกถึงภาพวันเก่า...คราวยังเล็ก

    พ่ออุ้มเด็กตัวน้อยนั่งข้างบนบ่า

    พลางปลอบ...เจ้าอย่าหวั่นเลยขวัญตา

    สองมือใหญ่นี้หนา...จะประคอง





    หากมือแม่เป็นผ้าอุ่นละมุนนัก

    มือพ่อจักเป็นเกราะคลุมคุ้มภัยผอง

    หากลูกล้ม...เหนื่อยล้า...น้ำตานอง

    พ่อทั้งป้อง...ปลุกให้ลุกบุกบั่นไป





    อาจไม่เคยเอ่ยปาก “พ่อรักลูก”

    แต่พันผูกเกลียวรักมั่นไม่หวั่นไหว

    แววตาพ่ออาจไม่หวานซ่านฤทัย

    แต่แววตานี้ห่วงใย...ไม่เว้นวัน





    แม้หลอมรวมสามภพจบทั่วหล้า

    อีกนภามหาสมุทรสุดเขตขันธ์

    หรือจักรวาลที่วัดว่าค่าเป็นอนันต์

    จะเทียมทันเทียบพ่อได้...นั้นไม่มี





    “พ่อ” คือ “พรหม” คือ “พระ” คุ้มอุ้มชีวิต

    ลูกน้อมจิตกราบประนมก้มเกศี

    เรียงอักษรเป็นกลอน...ร้อยแทนถ้อยวจี

    ว่าลูกนี้ “รักพ่อ” ขอบูชา






      


     



    ร่วมกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ กับ Sanook!





    (หมดเขต 31 ธันวาคม 2555 นี้)







    เรื่องน่ารู้อื่นๆ เกี่ยวกับวันพ่อแห่งชาติ




    รวมเพลงวันพ่อ
















    ครีมหน้าใส” อื่นๆ :ครีมสาหร่ายครีมนมข้าวครีมน้ำนมข้าวครีมกันแดดซิลิโคน,ครีมหน้าใสเซรั่ม ขาว ใส ยกกระชับครีมตัวขาวครีม เซรั่ม ใต้ตาเจล หน้าใส ยกกระชับ ปรับผิวขาว, สบู่หน้าใสครีม เซรั่ม เจล ลดสิว,บรรจุภัณฑ์สติกเกอร์ โลโก้ ครีมหน้าใสผิวขาว , ครีมหน้าขาว ,ครีมมะหาดครีมนมผึ้งครีมน้ำนมผึ้ง


    กด Link(ถูกใจ) หน้า page ครีมสาหร่าย สีเข้ม สอบถามอัพเดตข่าวสาร ได้ที่ หน้า page นี้เลยนะค่ะ




    พริตตี้ มอเตอร์โชว์ 2012 ----> ผู้สนับสนุนครีมสาหร่าย ครีมหน้าใส